ฉันเคยเกลียดฤดูหนาว แต่เทรนด์ฤดูหนาวของนอร์ดิกเปลี่ยนใจไปหมด

คุณเชื่อไหมว่ายังมีอีกห้าสัปดาห์ที่เหลืออยู่ของฤดูหนาว? ห้าสัปดาห์ที่หนาวเย็น ฉันดีใจ เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังความสุขของฉัน (นอกเหนือจากที่กว้างขวาง?) เทรนด์ฤดูหนาวของนอร์ดิก - ใช่, hygge, แต่ยังเป็นแนวคิดที่รู้จักน้อยกว่าที่เรียกว่า 'Friluftsliv'

ฉันเรียนรู้เกี่ยวกับ Friluftsliv เป็นครั้งแรกซึ่งแปลว่า "การใช้ชีวิตแบบเปิดโล่ง" หรือ "ชีวิตในอากาศบริสุทธิ์" อย่างหลวม- อัลกอริทึม Instagram ของฉันมักจะตอบสนองต่อการติดแท็กทางภูมิศาสตร์เริ่มให้อาหารฉันเนื้อหาเกี่ยวกับวิธีการที่มีประโยชน์ต่อฤดูหนาวนี้ ฟีดของฉันเต็มไปด้วยวงล้อของต้นไม้สูงตระหง่านและเทียนที่ริบหรี่ด้วยคำพูดเช่น "พักผ่อน" และ "บำรุง" ซ้อนทับในจดหมายวนรอบ โดยธรรมชาติแล้วการเป็นชาวบริทและชาวลอนดอนฉันก็หดตัว ฉันอยู่ในนอร์เวย์เพื่อทำเครื่องหมายเป้าหมายชีวิตจากรายการที่ต้องทำของฉัน! เผชิญหน้ากับความกลัวของฉัน! เพื่อเริ่มต้นปีที่แข็งแกร่ง! เป้าหมายที่คุ้มค่าทั้งหมด แต่เมื่อวันที่ผ่านไปและฉันก็เริ่มที่จะผ่อนคลายลงในจังหวะที่ช้าลง (จำเป็นต้องมีความเหนื่อยล้าหลังการเล่นสกี) ฉันพบว่าตัวเองสงสัยว่านอร์ดิกเหล่านี้มีวิธีการที่เหมาะสมในฤดูหนาวหรือไม่

Nordic Winter Essentials

ตลอดชีวิตผู้ใหญ่ของฉันฉันได้ร้องเพลง '- ฉันมุ่งมั่นที่จะไม่มีที่สิ้นสุดแห้งเดือนมกราคม, พยายาม ''และลงทะเบียนสำหรับความท้าทายด้านการออกกำลังกายที่หลอกหลอนฉัน และในขณะที่ฉันยืนกรานฉันจะไม่ตกอยู่ในกับดักนั้นในปีนี้แทนที่จะเลือกสิ่งที่ฉันขนานนามว่า 'หนึ่งและทำวิธีการ' ถึงปี 2025เป็นความละเอียดเพียงอย่างเดียวของฉัน-ฉันยังคงกดดันตัวเองอย่างมากเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดด้วยตนเอง

“ ผู้คนที่ประสบความสำเร็จสูงจำนวนมากมีพลังงาน 'พิสูจน์'-พวกเขามุ่งมั่นเพื่อเป้าหมายต่อไปและพยายามเพิ่มประสิทธิภาพการส่งออกของพวกเขา”ดร. แมนดี้เลห์โตบอกฉันเพิ่ม:“ สิ่งนี้จำเป็นต้องทำมักจะได้รับแรงบันดาลใจจากความปรารถนาที่จะรู้สึกมีค่าและได้รับการตรวจสอบ” ฉันสั่นเทาในการจดจำการคิดถึงทุกครั้งที่ฉันวัดมูลค่าของฉันกับภาระงานของฉัน Lehto โค้ชผู้บริหารและโฮสต์ของพอดคาสต์-อธิบายว่าการโอบกอดกเราต้องหยุดเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเองด้วยความยุ่งและรวมความกว้างขวางเข้ามาในชีวิตของเรา เธอบอกว่านี่เป็นวิธีเดียวที่จะทำความรู้จักกับตัวตนที่แท้จริงของเรา

การทำความรู้จักกับตัวตนที่แท้จริงของฉันคือสิ่งที่ฉันพยายามและดิ้นรน ในทางทฤษฎีแน่นอนฉันต้องการเข้าใจตัวเอง ในความเป็นจริงฉันรู้สึกไม่สบายใจอย่างมากใน บริษัท ของตัวเอง ชีวิตส่วนใหญ่ของฉันทุ่มเทเพื่อพยายามแซงหน้าฉัน- ฉันเติมปฏิทินของฉันด้วยความร้อนแรงที่ทำให้ผู้คนรอบตัวฉันสับสนซึ่งฉันพยายามอธิบายด้วยข้อความเช่น“ ฉันเป็นผีเสื้อสังคม!” และซ่อนตัวอยู่ข้างหลังความอยากที่จะใช้เวลาส่วนใหญ่ให้กับโลกที่มีค่าของเรา ทั้งสองสิ่งนี้เป็นจริง แต่สิ่งที่เป็นจริงก็คือฉันไม่สนุกกับการอยู่คนเดียวและดิ้นรนเพื่อให้รู้สึกว่าฉันสมควรได้รับ-

มีคำว่า 'sisu' ภาษาฟินแลนด์ซึ่งแปลโดยคร่าวทำ,ฤดูหนาวนี้ทำไมไม่ลองใช้กับมันสิ่งมีชีวิต- เธอแนะนำให้ใช้ SISU เพื่อนั่งใน“ ความรู้สึกที่ยากลำบากและกระตุกที่เกิดขึ้นเมื่อคุณรู้สึกว่ายุ่งอยู่กับการยุ่งและมีประสิทธิผล” reframing rest เป็นการกระทำที่มีความยืดหยุ่นแทนที่จะส่งได้ช่วยให้ฉันเห็นคุณค่าในการให้เวลาตัวเองไม่ได้ทำอะไรเลย เป็นการดีที่ฉันต้องการไปยังสถานที่ที่ฉันไม่รู้สึกว่าจำเป็นต้องปรับการผ่อนคลาย แต่ในขณะที่ฉันปรับตัวให้คุ้นเคยกับจังหวะใหม่ที่ช้ากว่านี้เตือนตัวเองว่ามีการพักผ่อนแทนที่จะมองว่ามันเป็นเรื่อง กิจกรรมตอกย้ำมูลค่าของมัน

“ การชะลอตัวลงในฤดูหนาวการทำงานภายในแบนด์วิดท์ของเราและการพักผ่อนที่เหลือสนับสนุนระบบประสาทของเราเพื่อที่เราจะไม่ได้มีความยืดหยุ่นเท่านั้นโค้ชชีวิตและผู้แต่งหนังสือเล่มนี้ผู้หญิงที่ทำงานมากเกินไป- โทมัสอธิบายว่าสภาพอากาศหนาวเย็นและวันสั้น ๆ ของฤดูหนาวบอกชีววิทยาของเราถึงเวลาที่จะชะลอตัวประหยัดพลังงานของเราและหันเข้าด้านใน แต่ในสังคมที่หมกมุ่นอยู่กับซอฟต์แม็กซ์-

“ ชีววิทยาของเราได้รับการออกแบบมาเพื่อทำงานควบคู่กับสภาพแวดล้อมของเราเรามีสายยากที่จะตอบสนองต่อฤดูกาล” โทมัสอธิบาย การผลักดันให้เกิดความเสี่ยงที่จะทำให้เราตกอยู่ในความเสี่ยงเธอเตือนว่าการระบายทรัพยากรพลังงานของเราขัดขวางระบบประสาทของเรา “ มันเป็นเหมือนการบังคับให้ดอกแดฟโฟดิลบานสะพรั่งตลอดทั้งปีและปฏิเสธความต้องการของพวกเขาในช่วงเวลาที่ต้องพักตัว”

แนวโน้มฤดูหนาวของนอร์ดิกเช่น Hygge, Sisu และ Friluftsliv เตือนให้เราเคารพการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลและรับรู้สถานที่ของเราในธรรมชาติ รับทราบว่าเราไม่ได้อยู่ในสุญญากาศและในความเป็นจริงแล้วเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเราเองเป็นเครื่องเตือนใจที่มีค่าในวัฒนธรรมปัจเจกนิยมของเรามากขึ้น สังคมบังคับให้เรามีวิธีการเชิงเส้นในการเป็น 'การผลิต' เมื่อจังหวะตามธรรมชาติของเราเป็นวัฏจักรมากขึ้นโทมัสกล่าวเสริม

โทมัสให้ความมั่นใจกับฉันว่าการเพลิดเพลินกับการจำศีลที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Hygge เป็นเรื่องปกติ: มันสนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีของเราและกระตุ้นให้เราเลี้ยงดูและบำรุงตัวเองมากกว่าที่จะรอดชีวิตจากเดือนที่อากาศหนาวเย็นด้วยพลังเดรัจฉาน

ยิ่งฉันคิดถึงมันมากเท่าไหร่ Barmier ก็ฟังดูและดำเนินการยกเครื่องตัวละครที่สมบูรณ์ในฤดูกาลที่ยาวนานที่สุดหนาวที่สุดและมีความท้าทายทางการเงินแน่นอนฉันมีความสุขมากขึ้นเมื่อฉันปฏิบัติต่อฤดูหนาวเป็นช่วงเวลาของการบำรุงและพักผ่อน ความเข้าใจที่เพิ่งค้นพบใหม่นี้ทำให้ง่ายต่อการจัดลำดับความสำคัญของการผ่อนคลายหรือไม่? ใช่และไม่ใช่ซึ่งเป็นเหตุผลที่ฉันพบว่าคำศัพท์ของชาวนอร์ดิกมีประโยชน์สำหรับการสร้างทัศนคติที่ดีต่อการพักผ่อน: ฉันไม่ได้ฉันกำลังฝึก 'sisu'

ฉันไม่คิดว่าจะต้องกังวลเกี่ยวกับการถูกมองว่าขี้เกียจเป็นประสบการณ์ของผู้หญิงที่ไม่เหมือนใคร แต่ฉันคิดว่าเราอาศัยอยู่ในวัฒนธรรมของนั่นให้ความสำคัญกับผู้หญิงโดยผลผลิตของพวกเขาและสิ่งที่พวกเขาสามารถนำเสนอสังคม วัฒนธรรมตะวันตกยังทำให้ความคิดที่เพิ่มขึ้นและบดของนักธุรกิจและเท่ากับการไม่ทำอะไรเลยสิ่งมีชีวิตไม่มีอะไร. คำศัพท์เช่น Hygge ทำให้ฉันนั่งร้านเพื่อสร้างบ้านแห่งการพักผ่อนและผ่อนคลาย

การพักผ่อนที่แท้จริงฉันกำลังเรียนรู้ไม่เกี่ยวกับหรือมองว่าการหยุดทำงานเป็นวิธีที่จะเติมเต็มชั่วโมง 'ใน' ของฉันมันเกี่ยวกับการให้เวลาตัวเองไม่ได้ทำอะไรเลยโดยไม่มีจุดมุ่งหมายและยอมรับสิ่งนี้จะรู้สึกผิดปกติที่จะเริ่มต้นด้วย “ รู้สึกถึงอารมณ์ที่ไม่สบายใจโดยไม่ต้องเสียสมาธิตัวเอง” ให้คำแนะนำแก่ Lehto เธอบอกว่าโดยการปล่อยให้พวกเขาผ่านไปฉันจะสามารถย้ายไปสู่ความรู้สึกที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นของความจริงและสงบ

Lehto ยังบอกด้วยว่ามันเป็นประโยชน์ในการดูว่าช่วงเวลาที่เรียบง่ายทำให้คุณสว่างขึ้นถ้าคุณกำลังดิ้นรนเพื่อค้นหาความสงบภายใน สิ่งเหล่านี้อาจให้เวลากับตัวเองมากพอที่จะเพลิดเพลินกับกาแฟก่อนที่จะเตรียมพร้อมสำหรับทั้งวันการประดิษฐ์หรือ- สิ่งสำคัญคือพวกเขาไม่ควร 'มีประสิทธิผล' หรือพัฒนาตนเอง

การตระหนักถึงความสุขขั้นพื้นฐานที่นำความสุขช่วยให้คุณพัฒนาความตระหนักในตนเองเชื่อมต่อกับโลกภายในของคุณเองและเตือนคุณว่าคุณเพียงพอเช่นเดียวกับที่คุณเป็น Lehto กล่าว “ พิธีกรรมเล็ก ๆ มีน้ำหนักเพราะพวกเขามีส่วนร่วมกับความรู้สึก” เรน่าไซมอนผู้แต่งนักออกแบบและผู้ก่อตั้ง Hygge สำหรับบ้านอธิบาย “ การสั่นไหวของแสงเทียน, น้ำหนักของการโยนผ้าลินิน, กลิ่นของยูคาลิปตัสสด - องค์ประกอบแต่ละอย่างมีส่วนช่วยให้เกิดประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสชั้นที่ทำให้เราอยู่ในปัจจุบัน”

การปฏิบัติโดยเจตนาบางอย่างที่ฉันพบว่าเป็นประโยชน์ในฤดูหนาวนี้ได้รับการบันทึก (โบราณเป็นสิ่งที่คิดโบราณด้วยเหตุผล), การฝึกโยคะทุกวัน (ใช่อีกเรื่องที่น่าเบื่อ) และให้รางวัลกับกาแฟเมื่อฉันออกกำลังกายสั้น ๆ กิจวัตรเหล่านี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงชีวิตโดยเฉพาะและฉันไม่คาดหวังว่าพวกเขาจะเป็น reframing การออกกำลังกายและความสุขเล็กน้อยเมื่อเวลาที่ฉันลงทุนในตัวเองมีเปลี่ยนแปลงชีวิตเพราะไม่ได้คาดหวังสิ่งอื่นใดจากพวกเขาฉันจะได้เพลิดเพลินกับกิจวัตรเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้เช่นเดียวกับที่พวกเขาเป็น ถ้าฉันพลาดโยคะวันหนึ่งมันไม่สำคัญเพราะฉันไม่ได้ทำงานเพื่อเป้าหมายที่ใหญ่กว่า

เนื่องจากการให้เวลาตัวเองทำทุกอย่างที่ฉันต้องการแทนที่จะถือตัวเองไปตามแผนการออกกำลังกายที่เข้มงวดหรือเป้าหมายการเพิ่มประสิทธิภาพฉันพบว่าฉันมีแนวโน้มที่จะทำมันมากขึ้น และในขณะที่ฉันยังไม่พร้อมที่จะละทิ้งแผนการทางสังคมทั้งหมดของฉันการลงไปที่บ้านกำลังกลายเป็นสิ่งที่ฉันชอบมากกว่าที่จะอดทน นั่นเป็นการแสดงให้เห็นถึงการลงทุนในโฮมแวร์ที่มีรหัส Hygge ซึ่งทำให้การเชิญชวนมากขึ้นหรือไม่? อย่างแน่นอน.

5 วิธีในการทำให้พื้นที่ของคุณรู้สึกเป็นมิตรมากขึ้น

“ การออกแบบ Hygge เป็นเรื่องเกี่ยวกับการโอบกอดความเรียบง่ายและสร้างพื้นที่ที่สะดวกสบายและระบายอากาศได้ คุณไม่จำเป็นต้องซื้อของใหม่มากมาย มุ่งเน้นไปที่สัมผัสเล็ก ๆ ที่มีความหมาย” Dayna Isom Johnson ผู้เชี่ยวชาญด้านแนวโน้ม Etsy Reena Simon แห่งhygge สำหรับบ้านเพิ่มเติม:“ Hygge เป็นมากกว่าความงามที่หายวับไปมันเป็นปรัชญาการออกแบบที่พิจารณาว่าพื้นที่พื้นผิวและแสงส่งผลกระทบต่อความสงบของเราอย่างไร เมื่อเราออกแบบบ้านของเรารอบ ๆ หลักการเหล่านี้ไม่ว่าจะผ่านพื้นผิวที่มีเลเยอร์สำเนียงไม้ที่อบอุ่นหรือสระว่ายน้ำที่ใกล้ชิดของแสงมันช่วยส่งเสริมความปลอดภัยและความสะดวกสบายลดความเครียดและเพิ่มความเป็นอยู่ที่ดี” อ่านเคล็ดลับของ Simon สำหรับการรวม Hygge เข้ากับบ้านของคุณ

1. Hygge ไม่ได้เกี่ยวกับการเติมพื้นที่ด้วยสิ่งที่ 'อบอุ่น' มันเกี่ยวกับการสร้างบรรยากาศที่ช่วยให้คุณหายใจออก
2. ดูแลแสงของคุณ: ไฟติดผนังหรี่แสงโคมไฟตั้งโต๊ะประติมากรรมและเทียนที่อยู่ที่ความสูงที่แตกต่างกันช่วยสร้างออร์แกนิกมากขึ้น
3. วัสดุเลเยอร์: คิดว่าผนัง limewash chalky, พื้นไม้กระดานกว้างหรือสำเนียง boucle และผ้าลินิน, พื้นผิวที่ทำให้พื้นที่อ่อนนุ่มและกระตุ้นให้สัมผัส
4. ออกแบบเพื่ออารมณ์: พิจารณาว่าพื้นที่ทำให้คุณเป็นอย่างไรรู้สึก,คุณโน้มน้าวใจมันในตอนเย็นหรือไม่? มันส่งเสริมความรู้สึกช้าหรือไม่? การตกแต่งภายในที่แท้จริงของ Hygge นั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับอารมณ์ความสวยงาม
5. แนะนำองค์ประกอบธรรมชาติ: สาขาประติมากรรมแจกันสโตนแวร์ที่มีลำต้นแห้งหรือแก้วเซรามิกที่โยนด้วยมือล้วนมีส่วนช่วยในการตกแต่งภายในที่รู้สึกเป็นส่วนตัวและสัมผัสได้อย่างลึกซึ้ง